วันศุกร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2553

news20



Dell เตรียมวางจำหน่าย Streak แท็บเล็ตคอมพิวเตอร์ขนาด 5 นิ้ว ที่มาพร้อมช่องใส่เมมโมรีการ์ดในเดือนหน้า (มิ.ย. 53) มั่นใจ Streak ขึ้นแท่นคู่แข่งเบอร์หนึ่งของ iPad จากแอปเปิลแน่นอน ด้วยหน้าจอขนาด 5 นิ้วทำให้ Streak ดูเหมือนเป็นอุปกรณ์ลูกผสมระหว่างโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ตคอมพิวเตอร์ โดยจะมีกล้องตัวหน้าสำหรับทำวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ (Video conference) หรือวิดีอคอลล์ ซึ่งเดลล์คาดว่านี่จะเป็นฟีเจอร์หลักที่ช่วยให้ Streak สามารถแข่งขันกับ iPad ได้เข้มข้นยิ่งขึ้น
Streak มีหน้าจอขนาด 5 นิ้ว ความละเอียด 800x480 พิกเซล ใช้ซีพียู Snapdragon ความเร็ว 1GHz มีกล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซลพร้อม แฟลช LED และรอรับการเชื่อมต่อ 3G, ไวไฟ และบลูทูธ 2.1

Streak นั้นมีกำหนดการเปิดตัวในประเทศอังกฤษช่วงต้นเดือนมิถุนายนนี้ ผ่านผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ O2 และผู้ค้าปลีกอย่าง Carphone Warehouse โดยในขณะนี้ยังไม่มีการเปิดเผยราคาวางจำหน่ายที่แน่ชัด
เดลล์ถือเป็นผู้ผลิตรายแรกที่ส่งคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตตระกูลแอนดรอยด์ มาต่อสู้กับ iPad ได้ก่อนใคร โดยStreak จะทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 2.0 และเดลล์ยืนยันว่าจะสามารถอัปเกรดเป็น Android 2.2 ได้ในอนาคต
สำหรับการเปิดตัว Streak นั้น นักวิเคราะห์หลายรายมองว่า นี่เป็นส่วนหนึ่งของแผนขยายธุรกิจอุปกรณ์พกพาที่จะช่วยเพิ่มยอดรายรับรวมให้ เดลล์ หลังจากที่เดลล์ต้องตกอันดับเป็นผู้ผลิตคอมพิวเตอร์รายใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกเมื่อไม่นานมานี้

อย่างไรก็ตาม Will Stofega นักวิเคราะห์ของ IDC นั้นเชื่อว่า Streak จะสามารถขายได้ถึงล้านเครื่องในเวลาไม่นานเนื่องจากยอดสั่งจองที่คึกคัก แม้จะไม่มั่นใจว่าแอนดรอยด์จะสามารถต่อกรกับแพลตฟอร์มไอโฟนในตลาด คอมพิวเตอร์พกพาได้หรือไม่

“มันเป็นคอมพิวเตอร์แบบพกพา และโทรศัพท์มือถือ คุณสามารถใส่มันลงไปในกระเป๋าได้อย่างสบาย นอกจากนี้มันยังมีความน่าสนใจ และมีลูกเล่นมากมาย ในขณะนี้แอนดรอยด์ถือเป็นคู่แข่ง คนสำคัญของไอโฟนในตลาดสมาร์ทโฟนก็จริง แต่ในตลาดคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตนั้นเรายังไม่สามารถพูดได้เช่นนั้น”

เช่นเดียวกับ Charles Golvin นักวิเคราะห์จาก Forrester ที่เชื่อว่า Streak จะสามารถแข่งขันไอแพดได้ เนื่องจากเดลล์มีประสบการณ์ในการผลิตคอมพิวเตอร์มาเป็นเวลานาน เพียงแต่ยังขาดความเชี่ยวชาญในการผลิตซอฟต์แวร์สำหรับ
ก่อนหน้านี้ Stephen Felice ผู้บริหารฝ่ายผลิตภัณฑ์คอนซูเมอร์ของเดลล์ เคยกล่าวในงาน Global Technology ที่เมืองซานฟานซิสโก เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาว่า ถึงแม้ Streak จะเป็นที่สนใจในตลาดคอมซูมเมอร์ แต่เป้าหมายสำคัญในการผลิตคอมพิวเตอร์ของเดลล์ก็ยังเป็นการผลิตคอมพิวเตอร์ สำหรับองค์กรขนาดใหญ่ คำกล่าวนี้แปลว่าเดลล์ตั้งใจออกแบบ Streak มาเพื่อการทำงานของนักธุรกิจ ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นการปฏิวัติรูปแบบการทำงานนอกออฟฟิศในอนาคตของนักธุรกิจ ทั่วโลก

news19



แอปเปิ้ล? เปิดตัวระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่ล่าสุด Mac OS? X v10.6 Snow Leopard? ที่พร้อมจำหน่าย ผ่านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการและผ่านทางร้านค้าออนไลน์ของแอปเปิ้ล โดย Snow Leopard นั้นถูกพัฒนาขึ้นบนเทคโนโลยีที่มีรากฐานที่น่าเชื่อถือนับทศวรรษอย่าง OS X และได้รับการปรับแต่งให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้นในหลายร้อยจุด เสริมด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด และรองรับการทำงานร่วมกับ Microsoft Exchange ได้อย่างดี โดยผู้ใช้สามารถอัพเกรดจาก Mac OS X Leopard มาเป็น Snow Leopard? ได้ในราคาเพียง 1,190 บาทเท่านั้น



?Snow Leopard พัฒนาโดยต่อยอดจากระบบปฏิบัติการที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของเรา และเราก็ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่สามารถนำเสนอ Snow Leopard ให้ผู้ใช้ได้เร็วกว่ากำหนดการที่เราคาดเอาไว้? เบอร์แทรนด์ เซอร์เล็ท รองประธานอาวุโสฝ่ายวิศวกรรมซอฟต์แวร์ของแอปเปิ้ล กล่าว ?ด้วยราคาในการอัพเกรดเพียง 1,190 บาท ผู้ใช้ Leopard จะได้สัมผัสกับเทคโนโลยีชั้นสูงบนระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ และเป็นระบบที่รองรับการทำงานร่วมกับ Exchange ได้?

ในการพัฒนา Snow Leopard นั้น วิศวกรของแอปเปิ้ลได้ปรับปรุงส่วนต่างๆ บน Mac OS X รวมแล้วกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ของจำนวนโปรเจ็กต์ทั้งหมดนับพันรายการ ทำให้ผู้ใช้จะได้สัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ทั้งใน Finder? ที่ค้นหาได้อย่างรวดเร็วกว่าเดิม โดยสามารถเปิดข้อความในเมลได้เร็วขึ้นสองเท่า* Time Machine? ที่สามารถสำรองข้อมูลครั้งแรกได้เร็วขึ้นสูงสุดถึง 80 เปอร์เซ็นต์ * และให้การทำงานรูปแบบใหม่ร่วมกันระหว่าง Dock และ Expose? มี QuickTime? X โฉมใหม่ที่ให้ความสะดวกมากกว่าในการชม บันทึก ตัดต่อ และแชร์วิดีโอ อีกทั้งบราวเซอร์ Safari? 4 เวอร์ชัน 64-บิต สามารถทำงานได้เร็วขึ้นกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ** และยังสามารถป้องกันระบบไม่ให้ได้รับผลกระทบจากปลั๊กอินที่มีปัญหา ที่สำคัญ Snow Leopard นั้นมีขนาดเพียงครึ่งเดียวของระบบปฏิบัติการเวอร์ชันก่อนหน้านี้ ช่วยประหยัดพื้นที่บนฮาร์ดดิสก์ลงไปได้มากถึง 7 กิกะไบต์ในทันทีที่ติดตั้ง

ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่แอพพลิเคชันระบบ ไม่ว่าจะเป็น Finder, Mail, iCal?, iChat? และ Safari ได้ถูกแปลงโค้ดโปรแกรมให้กลายเป็นแบบ 64-บิต และด้วยคุณสมบัติของ Snow Leopard ในการรองรับโพรเซสเซอร์แบบ 64-บิต ทำให้สามารถทำงานร่วมกับหน่วยความจำประเภทแรมที่ใหญ่ขึ้น ให้สมรรถนะที่ดีขึ้น และมีความปลอดภัยมากขึ้น ในขณะที่ยังคงรองรับแอพพลิเคชันแบบ 32-บิต ได้อย่างไม่มีปัญหา นอกจากนี้ยังมีการนำ Grand Central Dispatch (GCD) มาใช้เพื่อนำเสนอแนวทางใหม่ให้แก่นักพัฒนาซอฟต์แวร์ในการเขียนแอพพลิเคชัน เพื่อดึงประโยชน์จากโพรเซสเซอร์แบบมัลติคอร์ออกมาให้ได้เต็มที่ รวมไปถึงการรองรับ OpenCL ซึ่งเป็นระบบมาตรฐานเปิด ที่ทำให้นักพัฒนาโปรแกรมสามารถใช้พลังของหน่วยประมวลผลกราฟิกที่มีอยู่ได้ อย่างคุ้มค่าเพื่อรองรับการประมวลผลอื่นๆ ที่นอกเหนือไปจากเรื่องของกราฟิก
Snow Leopard นั้นถือเป็นระบบปฏิบัติการบนเดสก์ทอปรุ่นเดียวที่รองรับการทำงานร่วมกับ Microsoft Exchange Server 2007 และให้ความสะดวกในการใช้ Mac OS X Mail, Address Book และ iCal ในการส่งและรับอีเมล์ สร้างหรือตอบรับการเชิญประชุมผ่านระบบออนไลน์ รวมไปถึงการค้นหาและจัดการรายชื่อบนสมุดรายชื่อกลางของระบบ และด้วยความสามารถในการทำงานร่วมกันระหว่าง Exchange กับ Snow Leopard ทำให้ผู้ใช้ยังจะได้รับประโยชน์จากคุณสมบัติเฉพาะบน OS X ทั้งการค้นหาอย่างรวดเร็วผ่าน Spotlight? และการพรีวิวผ่าน Quick Look เป็นต้น

Mac OS X Server Snow Leopard ระบบปฏิบัติระดับเซิร์ฟเวอร์ที่ง่ายต่อการใช้งาน พร้อมวางจำหน่ายเช่นเดียวกันในวันพุธที่ 2 กันยายน 2552 โดย Snow Leopard Server มาพร้อมกับคุณสมบัติใหม่ที่น่าสนใจมากมาย อาทิ Podcast Producer 2 และ Mobile Access Server ด้วยราคาที่เป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมคือ 18,990 บาท โดยไม่จำกัดจำนวนไลเซนส์เครื่องลูกข่ายที่เชื่อมต่อใช้งานกับเซิร์ฟเวอร์ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมและความต้องการของระบบสำหรับ Snow Leopard Server สามารถเรียกดูได้จาก www.apple.com/server/macosx/

ราคาและกำหนดการจำหน่าย
Mac OS X เวอร์ชัน 10.6 Snow Leopard พร้อมเปิดให้ผู้ใช้อัพเกรดระบบจาก Mac OS X เวอร์ชัน 10.5 Leopard ได้ในวันที่ 2 กันยายน ผ่านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของแอปเปิ้ล และเปิดให้สั่งซื้อได้ผ่านทางเว็บไซต์ร้านค้าออนไลน์ของแอปเปิ้ลแล้ววันนี้ (http://store.apple.com/th) โดย Snow Leopard สำหรับหนึ่งไลเซนส์การใช้งานสนนราคาที่ 1,190 บาท และ Snow Leopard Family Pack สำหรับการใช้งานในหนึ่งครอบครัว สูงสุด 5 ไลเซนส์การใช้งาน สนนราคาที่ 1,990 บาท สำหรับผู้ใช้ Tiger? ที่เป็น Mac? ซึ่งใช้โพรเซสเซอร์ตระกูลอินเทล สามารถเลือกซื้อชุด Mac Box Set ที่มาพร้อมด้วย Mac OS X Snow Leopard, iLife? ?09 และ iWork? ?09 พร้อมจำหน่ายในราคา 6,590 บาท และชุด Family Pack ที่ราคา 8,990 บาท

สำหรับลูกค้าที่ซื้อแมคเครื่องใหม่จากแอปเปิ้ลหรือจากตัวแทน จำหน่ายของแอปเปิ้ล ระหว่างวันที่ 8 มิถุนายน 2552 จนถึงวันที่ 26 ธันวาคม 2552 จะได้รับแพคเกจที่อัพเดทใหม่สำหรับ Mac OS X Snow Leopard Up-to-Date โดยมีค่าจัดส่งและจัดการ 390 บาท โดยผู้ใช้ต้องยื่นขอสิทธิ์อัพเกรดแพคเกจดังกล่าว ภายในเวลา 90 วัน นับจากวันที่ซื้อสินค้า และต้องไม่เกินวันที่ 26 ธันวาคม 2552 สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเรียกดูได้ที่ http://www.apple.com/asia/macosx/uptodate/ ทั้งนี้ Snow Leopard มีความต้องการหน่วยความจำขั้นต่ำ 1 กิกะไบต์ และออกแบบมาให้ทำงานบนคอมพิวเตอร์แมคที่ใช้โพรเซสเซอร์จากอินเทล สำหรับรายละเอียดความต้องการของระบบทั้งหมด สามารถเรียกดูได้ที่ www.apple.com/macosx/specs.html

* ทดสอบโดยแอปเปิ้ลในเดือนสิงหาคม 2552 เปรียบเทียบ Mac OS X v10.6 Snow Leopard รุ่นก่อนวางจำหน่าย กับ Mac OS X v10.5.8 Leopard บน MacBook 2.0 GHz และ iMac 2.66 GHz ซึ่งทั้งสองเครื่องมีหน่วยความจำ 2 กิกะไบต์ ทั้งนี้สมรรถนะที่ได้อาจแตกต่างไปตามรูปแบบการตั้งค่าของระบบ ระบบเครือข่าย ขนาดของไฟล์ ชุดของข้อมูล และปัจจัยอื่นๆ

** ทดสอบโดยแอปเปิ้ลในเดือนสิงหาคม 2552 เปรียบเทียบ Safari 4 แบบ 64 บิต กับ Safari 4 แบบ 32 บิต บนระบบปฏิบัติการ Mac OS X v10.6 Snow Leopard รุ่นก่อนวางจำหน่าย ที่ทำงานบนเครื่อง MacBook 2.0 GHz และ iMac 2.66 GHz ซึ่งทั้งสองเครื่องมีหน่วยความจำ 2 กิกะไบต์ สำหรับการทดสอบ JavaScript นั้นเป็นไปตามรูปแบบการทดสอบ SunSpider Performance Test ทั้งนี้สมรรถนะที่ได้อาจแตกต่างไปตามรูปแบบการตั้งค่าของระบบ ระบบเครือข่าย ขนาดของไฟล์ ชุดของข้อมูล และปัจจัยอื่นๆ

แอปเปิ้ล จุดประกายการปฏิวัติให้กับวงการคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลในทศวรรษ 1970 ด้วย Apple II พร้อมกับได้คิดค้นและพัฒนาคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลรูปแบบใหม่จนกลายเป็น Macintosh ในทศวรรษ 1980 และวันนี้แอปเปิ้ลยังคงเป็นผู้นำอุตสาหกรรมในด้านการสร้างสรร ที่ยืนยันด้วยรางวัลทั้งสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ ระบบปฏิบัติการ OS X และ iLife รวมไปถึงแอพพลิเคชันระดับมืออาชีพอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ แอปเปิ้ล ยังได้พลิกโฉมวงการดิจิตอลมีเดียด้วยเครื่องเล่นเพลงและวิดีโอแบบพกพาอย่าง iPod และร้านค้าออนไลน์ iTunes อีกทั้งยังสร้างสรรนวัตกรรมใหม่แห่งวงการโทรศัพท์มือถือด้วยการนำเสนอ iPhone สู่ตลาด

news18



มั่น ใจครอบคลุมทุกความต้องการ ทั้งหน้าจอระบบสัมผัส ดูทีวี ฟังเพลง เชื่อมต่อ WAP/GPRS พร้อมรองรับได้ถึง 2 ซิม ด้วยราคาไม่ถึง 5 พันบาท…
ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท โมเดิร์นเทคโนโลยีโมบาย จำกัด ผู้นำเข้าโทรศัพท์มือถือแบรนด์เอ็มทีเอ็ม (MTM) ประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์รุ่นล่าสุด T3 ด้วยคุณสมบัติครบถ้วน พร้อมรองรับทุกการใช้งาน ภายใต้การออกแบบอย่างลงตัว สามารถปรับเปลี่ยนฝาหลังได้ 2 แบบ นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์รุ่นดังกล่าวยังรองรับการทำงานแบบ 2 ซิมการ์ด พร้อมหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 3.0 นิ้ว สามารถรับสัญญาณโทรทัศน์ช่องฟรีทีวี อาทิ? 3 , 5 , 7 , MCOT, สสท , ทีวีไทย ฯลฯ ขณะเดียวกัน ยังสามารถใช้เป็น Webcam ได้อีกด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า โทรศัพท์เคลื่อนที่รุ่น T3 ยังสามารถรองรับ MP3 , MP4 , 3GP , วิทยุ FM Radio และยังสามารถใช้บันทึกภาพและเสียง ด้วยระบบเสียงชัดเจน พร้อมเชื่อมต่อ WAP , GPRS class 10 , E-book และยังสามารถส่ง SMS หรือ MMS ได้อย่างสะดวก ผ่านหน่วยบันทึกความจำแบบ micro SD ในราคาเพียง 4,590 บาท ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร.0-2294-5588

news17



InPulse Bluetooth companion watch เป็นอุปกรณ์เสิรมความสามารถในการทำงานให้กับมือถือ โดยทำหน้าที่เหมือนหน้าจอขนาดเล็กที่ผูกติดข้อมือ เพื่อถ่ายทอดการทำงานของ Blackberry อีกทีหนึ่ง มันไม่สามารถใช้รับสาย โทรออก หรือพิมพ์ข้อความได้ หน้าที่ของมันจริงๆ คือ แจ้งให้ทราบเมื่อใดก็ตามที่มือถือ Blackberry ของคุณมีสายเรียกเข้ามา แสดงข้อความ SMS ที่ได้รับ ตลอดจนข่าวสารจากระบบฟีด RSS หรือที่แชร์กันในกลุ่มเพื่อนอย่าง twitter?อย่างไรก็ตาม มันสามารถแสดงเวลาแบบนาฬิกาทั่วไปได้ด้วย ในส่วนของคุณสมบัติต่างๆ ของเครื่องมีดังนี้backberry clock all
•หน้าจอ OLED ที่มีความสว่างสดใสขนาด 1.3 นิ้ว
•บลูทูธ เวอร์ชัน 2.0+EDR
•แบตเตอรี่ลิเธียมอิออน 150 mAh
•เลนส์แก้วบนตัวถังทีทำจากโลหะ
•มอเตอร์ลูกเบี้ยวที่อยู่ภายในจะสั่นเมื่อเวลามีข้อความ หรือสายเรียกเข้า
•ชาร์จแบตฯผ่าน micro-USB
•อัพเดตเฟิร์มแวร์ได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับสายเคเบิ้ลใดๆ (OTA)
•ขนาดตัวเรือน: 51 มม. x 38 มม. x 12 มม.
???????? InPulse Bluetooth companion watch?จะสามารถใช้งานต่อเนื่องได้นาน 4 วันต่อการชาร์จแบตฯ หนึ่งครั้ง?โดยมันสามารถสื่อสารกับมือถือแบล็คเบอรี่ทำงานด้วย OS 4.3 ขึ้นไป ด้วยราคา 150 เหรียญฯ หรือประมาณ 5,000 บาท??สำหรับผู้สนใจสามารถสั่งจองล่วงหน้าได้ที่เว็บไซต์ getinpulse

news16



มาแล้วคับ Panda Internet Security 2010 เปิดให้เพื่อนๆ ได้ใช้ฟรีถึง 3 เดือน Antivius ตัวนี้จะทำให้เพื่อนๆที่ท่องอินเตอร์เน็ตอย่างสบายใจและปลอดภัยจาก ไวรัส สปายแวร์ แฮกเกอร์และยังช่วยปกป้องข้อมูลและคอมพิวเตอร์ของเพื่อนๆ ให้มีความปลอดภัย
antivius ตัวนี้สามารถรองรับ windows vista อย่างสมบูรณ์แบบ เพื่อนๆสามารถดาวน์โหลดมาใช้แบบฟรีๆได้ที่ pandasecurity

news15



ไม่น่าเชื่อว่า MSI บริษัทผู้ผลิตโน้ตบุ๊คชั้นนำจะหันมาทำแก็ดเจ็ตอย่าง MSI M800 ซึ่งไม่ใช่โน้ตบุ๊ก หรือแท็บเล็ต แต่มันกลับเป็นหุ่นยนต์ดูดฝุ่น สไตล์ iRobot หรือ Roomba ที่คุณผู้อ่านอาจจะเคยผ่านตามกันมาบ้างก่อนหน้านี้ แต่การที่บริษัทผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ชั้นนำลงมาเล่นแบบนี้ แก็ดเจ็ตที่ได้คงต้องไม่ธรรมดาเป็นแน่
MSI เปิดตัว MSI M800 หุ่นยนต์ดูดฝุ่น (robotic vacuum) ที่สามารถทำความสะอาดพื้นห้องของคุณได้โดยอัตโนมัติ โดยมาพร้อมกับระบบดูดฝุ่นที่ทรงพลังที่ทำงานร่วมกับแขนกวาดที่สามารถปัดฝุน เข้าไปในช่องดูดตรงกลางได้อย่างรวดเร็ว และแม่นยำ นอกจากนี้มันยังมีเซ็นเซอร์ตรวจับสิ่งกีดขวางด้วยคลื่นเสียง (sonic sensors) ทำให้ไม่ต้องกังวลว่ามันจะวิ่งไปชนสิ่งกีดขวาง และเมื่อแบตฯหมด มันก็จะวิ่งเข้าไปชาร์จที่แท่นเอง
MSI M800 จะวางตลาดเมื่อไรยังไม่มีกำหนดแน่ชัด แต่มันมาพร้อมกันอีก 2 รุ่น โดยรุ่น R-1300 จะมีเว็บแคมที่สามารถสอดส่องการทำความสะอาดของมันผ่านคอมพิวเตอร์ได้ หรือจะใช้เป็นหุ่นยนต์เฝ้าบ้านก็ได้ ส่วน R-500 จะมีดีไซน์ที่บางกว่าเดิม แต่จะไม่มีโซนิคเซ็นเซอร์ตรวจจับสิ่งกีดขวาง และระบบชาร์จตัวเองเหมือนรุ่นอื่นๆ สนนราคาของ MSI M800 จะอยู่ที 400 เหรียญฯ หรือประมาณ 13,000 บาท

news14



ข่าวไอที : และแล้วก็ได้เวลาชำแหละ iPhone 4 กันอีกแล้ว โดยทีมงานเจ้าเดิมนั่นก็คือ iFixit ซึ่งทางบริษัทได้ทำการแยกชิ้นส่วน iPhone 4 เพื่อให้เห็นไส้ในกันจะๆ ว่ามันมีอะไรอยู่ในนั้นบ้าง จะใช่สิ่งที่เราเคยได้ยินกันมา หรือเปล่า คำตอบอยู่ในย่อหน้าถัดไปแล้ว
iPhone 4 ถูกแยกชิ้นส่วนโดย iFixit แล้ว ซึ่งทำให้สามารถยืนยันได้ว่า iPhone 4 มาพร้อมกับหน่วยความจำ (RAM) 512MB (2 เท่าของ iPhone 3GS และ iPad) และรูปแบบการเชื่อมต่อแบตเตอรี่แบบใหม่ ตลอดจนเผยให้เห็นถึงฮาร์ดแวร์ในส่วนที่เป็น accelerometer และ Gyroscope คราวนี้มาดูข้อสรุปโดยย่อจาก iFixit กันดีกว่า
แบตเตอรี่: พื้นที่ ช่องว่างภายใน iPhone 4 ส่วนใหญ่จะถูกครอบครองโดยแบตเตอรี่ Li-Polymer ทีมีแรงดัน 3.7 โวลต์ 1420 mAh ซึ่งทำให้ผู้ใช้สามารถใช้ iPhone 4 ในการสนทนา หรือต่อเน็ต 3G ได้นานถึง 7 ชั่วโมง หรือเพิ่มขึ้นเป็น 14 ชั่วโมงสำหรับ 2G ส่วนเสาอากาศซ่อนอยู่ในด้านหลังของตัวถังเครื่อง
กล้อง: iFixit ได้เปิดเผยให้เห็นว่า กล้องด้านหลัง 5 ล้านพิกเซลที่สามารถบันทึกวิดีโอไฮเดฟฯ 720p ที่ 30 เฟรมต่อวินาที หน้าจอสามารถแตะเพื่อโฟกัสบริเวณที่ต้องการได้ พร้อมด้วยแฟลช LED (อัพเกรดจากกล้อง 3.2 ล้านพิกเซลที่พบใน iPhone 3GS )
โพรเซสเซอร์ A4: iPhone 4 ใช้โพรเซสเซอร์ ARM Cortex A8 ความเร็ว 1GHz เหมือน iPad

หน่วยความจำ: iFixit ยืนยันว่า iPhone 4 มีหน่วยความจำ 512MB ซึ่งมากกว่า ipad และ iPhone 3GS เป็นเท่าตัว

Accelerometer/Gyroscope เซ็นเซอร์ตรวจจับการเปลี่ยนแปลง ของความเร็วแบบ 3 แกน BG7AX STMicro 33DH ขนาด 3mm x 3mm และมี AGD1 ไจโรสโคป 3 แกน ออกแบบและผลิตสำหรับใช้ใน iPhone 4 โดย STM